วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2555

ไปดูมาแล้วมาบ่น Battleship ยุทธการเรือรบพิฆาตเอเลี่ยน

ไปดูมา แล้วมาบ่น
Battleship ยุทธการเรือรบพิฆาตเอเลี่ยน

โปสเตอร์หนัง
วันจันทร์ที่ผ่านมา ร้อนตับแลบเหลือเกิน เลยแอบหนีไปดูหนังคลายร้อน (5555)  พอดีเรื่องนี้อยากดูพอดี ตอนแรกจะรอไปดูวันพุธตามประสาคนเบี้ยน้อยหอยน้อย แต่เอาน่า สงกรานต์ไม่รู้จะทำอะไร ไม่ได้เปียกเลย ไปดูหนังก็ได้ หนังเข้ามาสองสามวัน คนดูก็เลยยังเยอะอยู่ (ที่เมเจอร์รัชโยธิน) ยิ่งรอบเย็นๆคงจะเยอะกว่านี้ ตอนไปดูรอบบ่ายสามสี่สิบ

น้ำท่วมทุ่งพอแล้ว เริ่มบ่นเลยดีกว่า
(ปล.มีการเปิดเผยเนื้อหาของภาพยนต์เต็มๆ หรือที่เีรียกเท่ๆว่าสปอย)

อย่างที่บอก ถ้ายังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้และคิดว่าอยากไปดูเพื่อความสนุกสนานส่วนตัว ให้รีบปิดซะ อย่าอ่านต่อ

ถ้าคิดว่าดูแล้ว หรือไม่อยากไปดู หรืออยากรู้เรื่องซะอย่างจะทำไม ก็เชิญทัศนาต่อไปได้เล้ย



ธีมหนังก็เหมือนกับหนังไซไฟทั่วๆไป คือจะเริ่มจากนักวิทยาศาสตร์ไอเดียบรรเจิด สร้างไอ้โน่น คิดไอ้นี่ ตั้งเป้าหมายไว้อย่างสวยหรู แต่ผลลัพธ์กลับเป็นตรงกันข้าม

ในเรื่องนี้นักวิทยาศาสตร์ติดตั้งระบบส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมติดต่อไปยังดาวเคราะห์ห่างไกลดวงหนึ่งที่ค้นพบว่าน่าจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่ ประมาณว่าอยากเซย์ฮัลโหลประมาณนั้น โดยมีสถานีภาคพื้นดินอยู่ที่ฮาวาย ส่งสัญญาณ (ที่ผมไม่รู้ว่าสัญญาณแบบไหน ภาพเสียงพร้อมหรือเปล่า เพราะว่าในหนังมันเป็นแสงสีแดงๆเฉยๆ) แล้วไปขยายสัญญาณผ่านดาวเทียมแล้วยิงไปดาวที่ว่า

แล้วก็ตัดฉับมาที่พ่อหนุ่มผมยาวที่เหมือนจะไม่เอาอ่าวเอาประเทศอะไรเลย มากินเบียร์ฉลองวันเกิดกับพี่ชาย ช่วงนี้ยอมรับเลยว่า "งงฮาฟฟฟ" เพราะผมไม่รู้หรอกว่าพระเอกชื่ออะไรหน้าตาเป็นไง ดูไปสักพักถึงรู้ว่าอ้อ ไอ้ผมยาวนี่เป็นพระเอก เรื่องของเรื่องคือหมอนี่เป็นคนไม่เอาอ่าวอย่างที่บอก พี่ชายพยายามจะหางานใ้ห้ทำ ซึ่งช่วงนี้เข้าตัวสุดๆ เนื่องจากมีหลายๆคนบอกให้ผมไปทำงานเหมือนชาวบ้านซักที 55555

นางเอกสุดสวย เอ็กซ์แตก
แล้วพ่อหนุ่มผมยาวนี่โชว์ความพยายามจะจีบหญิง ซึ่งก็คือนางเอก??? ตามภาพข้างๆ แหมขนาดนี้ก็น่าทุ่มทุนสร้างเหมือนกันแหละ 5555
ชีแกเอ็กซ์แตกมาก

ช่วงนี้เหมือนจะบอกให้คนดูรู้ว่าพระเอกผมยาวนี่เป็นพวกห่ามขนาดไหน ประมาณว่าทำไรไม่ค่อยยั้งคิดไรประมาณนี้ แต่อีกนัยยะหนึ่งที่พยายามจะสื่อก็คือ พระเอกนี่มีความตั้งใจจริงความพยายามสูง ช่วงนี้เรียกเสียงฮาในโรงได้พอสมควร


จากผลลัพท์ของความพยายามจีบหญิงของพระเอกก็คือ
1. ได้นางเอกมาเป็นแฟน โอ้เย
2. โดนพี่ชายบังคับให้มาเป็นทหารเรือ (เพราะพี่ชายเป็นทหารเรือ)

โฉมหน้าพระเอก ดูจากบั้งแล้วน่าจะเป็นเรือโท (ไม่มีความรู้เรื่องนี้ ไม่แน่ใจจริงๆ)
คราวนี้จากพวกเกรียนแตกก็ต้องมากลายเป็นทหารเรือหัวเกรียน แต่ที่งงๆก็คือรู้สึกว่าจะเป็นชั้นสัญญาบัตรด้วย พระเอกนี่ไปเรียนโรงเรียนนายเรือตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ บอกตรงๆ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อพระเอกเกรียนแตกนี่ยศอะไร แต่ใหญ่พอสมควรเลยทีเดียวเชียว เดาๆเอาว่าน่าจะเป็นเรือโท (Lieutenant Junior Grade) ไม่มีเหตุผลอะไร เดาล้วนๆ ส่วนพี่ชายน่าจะยศนาวาตรีขึ้นไปเนื่องจากเป็นผู้การเรือพิฆาต (Destroyer) ขอยอมรับว่าไม่ได้ใส่ใจยศถาบรรดาศักดิ์ของตัวละครในเรื่องสักเท่าไรเลยเก็บรายละเอียดไม่ได้ กระซิกๆ
พี่ชายพระเอก เป็นผู้การเรือเร่ เอ้ย เรือพิฆาตเชียวนะ 

จุดนี้ในหนังไม่ได้บอกเอาไว้ว่าจากเด็กเกรียน กลายเป็นนายทหารสัญญาบัตรได้อย่างไร แต่หนังพยายามบอกว่าพระเอกของเราเป็นผู้มีความสามารถ เก่ง ฉลาดเฉลียว เสียอย่างเดียว "เกรียน" 5555
โปสเตอร์หนังอีกอันที่เจอมา  มีทั้งพระเอก นางเอก และรองนางเอก
ฉากเปิดการฝึกซ้อมร่วม
เรื่องดำำเนินต่อไปโดยปูพื้นเพิ่มแต่ความเกรียนให้พระเอกอย่างต่อเนื่อง ชอบจริงๆเลย เป็นพระเอกผู้ "ไม่" แสนดี

คราวนี้มีการซ้อมรบร่วมนานาชาติ มีการแข่งบอลด้วย ยังกะฟุตบอลโลก แต่รอบชิงกลายเป็นอเมริกา vs ญี่ปุ่น พระเอกเกือบหล่อแล้ว แต่เกรียนแตกช่วงท้ายเลยอดหล่อ

ช่วงนี้เปิดตัว "คู่แค้นแสนรัก" ของพระเอก ก็เข้าแนวๆหนังเท่ๆทั่วไป ตอนแรกต้องทะเลาะกัน ตอนหลังต้องกลับมาช่วยเหลือกัน

จากภาพข้างบนเป็นพิธีเปิดการร่วมซ้อมรบนานาชาิติหลังพระเอกเตะบอลแพ้ สังเกตุให้ดีมีธงชาติไทยด้วยข้างๆญี่ปุ่นอ่ะ เย้เย้ แต่ในเรื่องดันประกาศชื่อแค่มาเลเซีย และราชนาวีไทยไม่มีบทบาทโผล่มาในเรื่องสักแอะเลย แอบเซ็งเล็กน้อย

อ้าว เรื่องนี้มันเรือรบปะทะเอเลี่ยนนี่นา เอเลี่ยนไปไหนแล้วเนี่ย ในเรื่องช่วงต้นๆ แทบจะไม่พูดถึงเอเลี่ยนอะไรสักนิด อย่างที่บอกเป็นการปูพื้นความเกรียนของพระเอกเป็นส่วนใหญ่ พอยกประเด็นคร่าวๆได้ดังนี้
1. เกรียนตอนจีบนางเอกอย่างที่บอกไป
ทั่นนายพลพ่อนางเอก
2. เกรียนตอนเตะบอล
3. เกรียนตอนต่อยกับทหารเืรือญี่ปุ่นชื่อนากาตะ (แต่นากาตะก็เกรียนใส่พระเอกตอนเตะบอลเหมือนกัน สรุป เกรียนทั้งคู่ แต่พระเอกซวย)
4. เกรียนตอนไม่กล้าไปขอนางเอกแต่งงานกับพ่อนางเอก (ก็พ่อชีเป็นนายพลเรือเชียวนะเนี่ย)
5. เกรียนตอนบอกเด็กว่าเรือพิฆาต (Destroyer) เจ๋งกว่าเรือประจัญบาน (Battleship) ประมาณว่าเรือประจัญบานเป็นทุ่นลอยน้ำ เก่าเหลาเหย่ กลายเป็นพิพิธภัณท์แล้วประมาณนี้ แต่จากชื่อเรื่องผมว่าทุกคนคงเดาได้ว่าตอนท้ายจะเป็นอย่างไร

จากผลความเกรียนที่ไปต่อยกับนากาตะ ทำให้พระเอกจะต้องถูกปลดหลังจากฝึกรบเสร็จ ซวยบังเกิดเลย

ในที่สุดเอเลี่ยนก็โผล่ออกมาสักที หลังจากปล่อยให้พระเอกโชว์เกรียนอยู่นาน จนผมนึกว่าเป็นหนังรักปนเกรียนไปชั่วขณะ  เยเย้ เค้าเสียตังค์มาดูเอเลี่ยนน้าาาาา

ตอนเปิดตัวเอเลี่ยนแอบคิดในใจว่าไหงมันง่าวเงี้ย มาทั้งหมด 5 ลำ บินมาเป็นปีแสงไม่มีอะไร แต่ดั้นมาชนดาวเทียมลำนึงตอนจะถึงโลก ง่าวแท้ๆ แถมเป็นลำที่เป็นตัวสื่อสารกลับบ้านเกิดซะด้วย พลสื่อสารเดี้ยงไปซะงั้น แต่มันก็เป็นจุดหลักสำคัญของเรื่องเลยเหมือนกัน แอบงงเล็กๆว่ายานลำเบ้อเร่อ ชนดาวเทียมอันกระติ๊ด (แต่ในเรื่องใหญ่เหมือนกัน) ยานลำเบ้อเริ่มถึงกับแตกครึ่ง ประมาณสิบล้อชนมอไซค์แต่สิบล้อหักกลางอย่างนั้นเลย

อลังการงานสร้างฉากแรกก็เลยบังเกิดคือเศษชิ้นส่วนยานสื่อสารที่ชนดาวเทียมแตกไปนั่นแหละ ไปตกใส่ฮ่องกง ในฐานะที่เดินแถวฮ่องกงจนปรุ รู้สึกทึ่งเล็กๆ ตึกนั้นฉันเคยไปนี่นา หักกลางซะ แล้วฉันจะไปเดินเล่นที่ไหน แล้วไฟเต้นระบำตอนกลางคืนจะทำไงดีล่ะ ประมาณนั้น ฉากนี้ชอบๆ ชอบความฉิบหายแบบอลังการ 5555

คราวนี้ยานเิอเลี่นก็ไปหล่นปุ๊ใกล้ๆกับที่เขาซ้อมรบกันพอดี (ก็ต้องงั้นแหละ ไม่งั้นมันจะตีกันได้ไงเนอะ) ยานเอเลี่ยนอลังมากขอบอก ท่านนายพลก็เลยส่งเรือไปดูลาดเลาอยู่สามลำ อันได้แก่เรือพระเอก (แหงอยู่แล้ว) เรือของพี่พระเอก กะเรือของนากาตะ

เรือยางลำน้อย กับยานรบสุดอลังของเอเลี่ยน
แล้วพระเอกกับทีมงานนั่งเรือยางออกไปดูลาดเลาดูจากรูปข้างๆก็พอเห็นความแตกต่าง หุๆๆ ยานของเอเลี่ยนมันมีสองแบบ (จริงๆสาม ยานสื่อสารไง ตกไปแล้ว) คล้ายๆยานแม่ มีจานเหมือนที่จอดเฮลิคอปเตอร์สองข้าง กับยานรบตามรูป


เจ้คนนี้มีบทบาทมากทีเดียวในเรื่องนี้ เพิ่งรู้ว่าชื่อริฮาน่าเป็นนักร้อง เค้าเซาะกราวจริงๆเล้ย
ไอ้ที่คล้ายๆที่จอดเฮลิคอปเตอร์ของยานแม่ปล่อยม่านบาเรียออกมาได้ด้วย ช่วงนี้บอกตรงๆว่างงมาก คือตอนแรกเข้าใจว่าปล่อยออกมาคลุมเรือสามลำที่เข้าไปตรวจดู แต่ไปๆมาๆ กลับไปคลุมเรือทั้งกองทัพ ไม่เข้าใจมากว่าตกลงมัีนคลุมอะไรกันแน่ เพราะเรือสามลำเรดาห์ใช้ไม่ได้ ติดต่อฐานไม่ได้ เลยนึกว่าคลุมเรือสามลำนี้ แต่บางคนบอกว่ามันคลุมกองเรือทั้งกอง ไม่งั้นมันจะบุกเข้ามาที่ตัวเกาะฮาวายได้ไง หรือจะปล่อยบาเรียคลุมทั้งเกาะเรยเรอะ อะไรประมาณนี้ สรุป งงจริงๆจุดนี้ ไม่สามารถหาคำตอบได้ ใครรู้ช่วยบอกหน่อยจะเป็นพระคุณ เอาเป็นว่าเรือสามลำกับกองเรือถูกตัดขาดจากกันโดนสิ้นเชิง ไม่สามารถข้ามเขตบาเรียได้ ในหนังสื่อโดยเครื่องบินบินผ่านบาเรียไม่ได้ เหมือนบินชนกำแพง

แก้ไขเพิ่มเติม ได้เห็นภาพนี้ในเนต เฉลยความเซาะกราวของผมเป็นอย่างดีว่าบาเรียเนี่ยคลุมอะไรบ้าง เออเนอะ ในหนังฉากนี้ก็มี แค่นี้ก็คิดไม่ได้ ง่าวแท้ๆ
บริเวณที่ม่านบาเีรียปกคลุม พี่แกเล่นคลุมเป็นเกาะๆ ท่าจะหลายร้อยตารางกิโลเมตรเลยนะเนี่ย

พี่นากาตะ ยศใหญ่น่าดู ใครรู้่บ้างยศอะไรช่วยบอกหน่อย


คราวนี้การสู้รบก็เริ่มเปิดฉาก ผลก็คือพี่พระเอกตาย เรือโดนจมโดยขวดกระทิงแดง 5555 ซับไตเติ้ลเขาเขียนงี้จริงๆ แต่ผมว่าเหมือนถังแกสมากกว่า ฉากนี้เจ๋งตรงอาวุธต่อต้านของเรือพิฆาต เทพพอสมควรที่เดียวเชียว แต่ขวดกระทิงแดงมันมากเกินจะต้านไหว ฉากเรือจมก็อลังการพอสมควร(อีกแล้ว)




แล้วผู้การเรือของพระเอกก็ตายเพราะขวดกระทิงแดงไปตกอยู่ข้างๆ คราวนี้พอผู้การเรือของพระเอกตายแล้ว ก็ต้องมีผู้นำทัพคนใหม่ หวยก็ล็อคไปที่พระเอกเนื่องจากมียศใหญ่ที่สุดในตอนนั้น โอ้ว เข้าแกปสถานการณ์สร้างวีรบุรุษจริงๆ ตอนแรกพระเอกก็ไม่อยากจะรับ เดาๆเอาว่าเสียใจอยู่ที่พี่ชายตัวเองเพิ่งตาย แต่สุดท้ายก็ต้องรับเป็นผู้การเรือ แต่ความเกรียนของพระเอกยังไม่สิ้นสุด พี่แกเล่นสั่งให้เรือเดินหน้าฆ่ามัน เอ้ยไม่ใช่พุ่งชนยานรบซะงั้น ประมาณจะแก้แค้นให้พี่ชาย เรือนากาตะเลยต้องยิงสนับสนุน เอเลี่ยนเลยแจกขวดกระทิงแดงให้นากาตะไปอีกชุด

สรุปผลการสู้รบยกที่หนึ่ง อย่างที่บอกพี่พระเอกตาย ผู้การเรือพระเอกตาย แต่เรือไม่จม?? โดนขวดกระทิงแดงไปไม่กี่ขวดมั้ง 555 เรือของนากาตะพยายามจะช่วยเรือพระเอกเลยโดนจมไปอีกลำ แต่นากาตะรอด

จุดสังเกตุ คือเอเลี่ยนจะทำการ "สแกน" ฝ่ายตรงข้ามก่อน ถ้ารู้สึกว่าเป็นอันตรายก็จะเป็นสีแดง ถ้าไม่อันตรายก็จะเป็นสีเขียว คราวนี้ถ้าสีแดงขึ้นพี่แกซัดไม่เลี้ยง เหมือนสแกนกรรมก่อนถ้ากรรมดีรอด ถ้ากรรมเลวฉันซัดไม่ยั้ง ประมาณนั้น

หนังตัดฉับจากกลางทะเลมาที่พื้นดินบ้าง เพราะเอเลี่ยนต้องทำอะไรสักอย่างหรือโฮมซิกอยากติดต่อบ้านก็ไม่รู้ เลยพยายามจะยึดฐานส่งสัญญาณ ก็อันเดียวกับที่ส่งสัญญาณไปดาวเอเลี่ยนตอนต้นเรื่องนั่นแหละ นับว่ามีไหวพริบในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี หุๆๆๆ งวดนี้นางเอกสุดเอ็กซ์ก็เริ่มมีบทบาท (ตอนแรกนึกว่ามีไว้เดินสวยอย่างเดียวซะแล้ว)

นางเอกตอนโทรมแต่ก็ยังแจ่มอยู่ดี หารูปพี่บึ้กขาขาดไม่ได้อ่ะ
ชีแกเป็นนักกายภาพบำบัดทำงานอยู่ในโรงพยาบาลของกองทัพ เลยต้องเปิดตัวตัวละครอีกคนนึงเป็นทหารผ่านศึกขาขาดผู้รู้สึกหมดสิ้นทุกอย่างไปพร้อมๆกับขาที่ขาดทั้งสองข้าง กลายเป็นพวกเกรียนอีกคนหนึ่ง สังเกตุเรื่องนี้เกรียนเยอะจริงๆ แต่เราก็พบเห็นบุคคลประเภทนี้จริงในสังคมทุกวันนี้ โอ้ว สะท้อนปัญหาสังคมซะงั้น แล้วนางเอกที่แสนดีของเราก็พยายามจะช่วยพี่บึ้กขาขาด โดยการพาไปเดินเล่นปีนเขา?? แล้วดันเป็นเขาที่ตั้งจานดาวเทียมส่งสัญญาณ?? ที่เอเลี่ยนกำลังจะไปบุกยึด??

ในที่สุดเอเลี่ยนก็เปิดตัวอาวุธใหม่เป็นเหมือนโยโย่ เจ๋งมากๆขอบอก โดยเฉพาะตอนปล่อยโยโย่ คืออารมณ์เดียวกับตอนหุ่นยนต์ประกอบร่างของพวกขบวนการห้าสีต่างๆ อานุภาพการทำลายสูงส่ง แถมสแกนกรรมก่อนทำลายอีกตะหาก มีเจอเด็กๆแล้วสแกนเป็นสีเขียวก็ปล่อยไป มะ เป็นคน เอ้ยเอเลี่ยนดีจริงๆ มีคุณธรรมด้วย ตอนแรกก็สงสัยว่าปล่อยโยโย่มหาประลัยไปทำลายสนามบิน ทางด่วนฯลฯทำไม จนแกงค์นางเอกที่ประกอบด้วยนางเอก พี่บึ้กขาขาด กะนักวิทย์หัวฟูก็มาเฉลยว่าเพื่อทำลายเส้นทางคมนาคมมายังสถานีดาวเทียมนี่เอง พี่เอเลี่ยนเล่นพังไปซะครึ่งเมืองได้ นักวิทย์หัวฟูเป็นพวกที่สร้างโปรเจคฮัลโหลเอเลี่ยนนี่ขึ้นมา ก็เป็นอีกหนึ่งเกรียนเช่นกัน แต่แนวๆเกรียนปอดแหก เห็นแก่ตัวเล็กน้อยตามประสา

โยโย่พิฆาต มีไฟด้วย เหมือนที่เคยเห็นที่เซนทรัลเลยง่า
หนังจะตัดไปมาช่วงนี้ระหว่างบนบกกะในทะเล พระเอกกลับใจไม่เกรียนพุ่งชนยานรบเอเลี่ยนหันเรือกลับมาช่วยพวกนากาตะที่เรือจมแต่ลูกเรือยังรอด?? งงเหมือนกันว่าทำไมทีพี่ชายพระเอกตายยกลำ แต่พอเป็นงวดเรือนากาตะยังมีลูกเรือรอด เยอะซะด้วย แต่ก็ทำให้พระเอกรอดตายไป เพราะจากการสแกนกรรมของเอเลี่ยนพระเอกกลายเป็นสีเขียว

พระเอกปะทะเอเลี่ยนบนเรือ งุงิ
อยู่ดีๆพวกพระเอกก็จับเอเลี่ยนได้ซะงั้น เลยรู้ว่าเอเลี่ยนหน้าตาเป็นไง เอเลี่ยนเรื่องนี้ถือว่าหน้าตาคล้ายมนุษย์มากอีกเรื่องหนึ่ง (อันดับหนึ่งหน้าเหมือนมนุษย์โลกผมยกให้ Star Trek) ตอนแรกนึกว่าตาย แต่ดั้นไม่ตาย (ตามสูตร) แล้วยังมีพวกมาช่วยเหลือกลับไปด้วย แล้วยังลุยเดี่ยวเกือบพังเครื่องเรือพระเอกได้อีกตะหาก เล่นเอาพระเอกเกือบตาย แต่ตอนจัดการเอเลี่ียนตัวนั้นนี่ฮามากสำหรับผม เหมือนเอา .38 ไล่ยิงมดแดงเลยง่า

แล้วพ่อหัวทองหนึ่งในแกงค์พระเอกก็มีวิญญาณนักชีววิทยาเข้าสิง บอกว่าเอเลี่ยนนี้นะน่าจะวิวัฒนาการมาจากพวกอิกัวน่า โดยดูจากดวงตา แล้วเอาหมวกกันน็อคของเอเลี่ยนมาใส่เล่นเลยรู้ว่าหมาวกันน็อคนี่เป็นตัวกรองแสงอาทิตย์ ทำให้รู้ว่าเอเลี่ยนเป็นพวกแพ้แสง(โสม 555)

จริงๆแล้วรายละเอียดลำดับเหตุการณ์ช่วงนี้ผมจำไม่ค่อยได้แล้วล่ะ เนื่องจากผ่านมาสองสามวันแล้ว (ความจำปลาทองเหมือนกันแหะ ต้องโด้ปแปะก้วยซะมั่งแล้ว) เอาคร่าวๆก็พอเนอะ

พระเอกกับเจ้นักร้อง
พอพังไปครึ่งเมืองได้แล้วเอเลี่ยนก็มายึดสถานีส่งสัญญาณ ยกเครื่องมือสารพัดมาเชื่อมต่อกับสถานีส่งสัญญาณเพื่อเซย์ฮัลโหลกับทางบ้าน นางเอกก็ติดต่อกับพระเอกได้ด้วยความช่วยเหลือของนักวิทย์หัวฟู ชีแกบอกให้พระเอกมาถล่มสถานีนี้่ซะ ส่วนพี่นักวิทย์หัวฟูก็บอกว่าแค่สถานีน่ะมันเซย์ฮัลโหลไม่ถึง ต้องใช้ดาวเทียมเป็นแอมปริไฟล์เอ้อร์ หนึ่งวันจะเซย์ฮัลโหลได้ครั้งเดียวเอง แกงค์นางเอกเลยพยายามจะซื้อเวลาโดยไปพังแหล่งพลังงาน(มั้ง) ของเอเลี่ยน ให้พระเอกกลับมาถล่มสถานีได้ภายหลัง งวดนี้พี่บึ้กออกโรงอย่างเท่ คนขาขาดปะทะเอเลี่ยน 5555

ส่วนพ่อพระเอกก็ร่วมมือกับนากาตะเพื่อจัดการยานรบของเอเลี่ยน ทีนี้พ่อนากาตะมีไอเดียกระฉูดใช้ทุ่นจับคลื่นซึนามิแทนเรดาห์ เพราะพี่นากาตะบอกว่าเรดาห์เราใช้ไม่ได้ เอเลื่ยนก็เหมือนกัน โอ้ว ล้ำลึกจริงๆ ช่วงนี้ผมชื่นชมไอเดียพี่แกมาก ซิมเปิ้ลบัทเอเฟคทีฟ
Board Game Battleship อันเป็นแรงบันดาลใจของหนังเรื่องนี้
อันที่จริงช่วงนี้แหละเข้าแกปกับแนวคิดเรื่องที่สุด ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะว่าช่วงเครดิตตอนท้ายเขาบอกว่าได้รับแรงบันดาลใจจากเกมส์ Battleship เกมส์นี้ผมก็เคยเล่นนะ สนุกพอใช้ได้เลย ฆ่าเวลาดี ตัวเกมส์จะให้เราวางตำแหน่งเรือต่างๆในตาราง ฝั่งตรงข้ามก็เช่นกัน พอวางเสร็จก็เริ่มเดาแล้วว่าฝ่ายตรงข้ามน่าจะวางเรือตำแหน่งไหนแล้วผลัดกันยิงตูมๆ ในหนังช่วงนี้นากาตะทำคล้ายๆในเกมส์เลย แต่ก็แค่คล้ายๆ เพราะว่าไม่ได้ยิงสุ่มเหมือนในเกมส์ แต่ใช้วิธีคาดเดาเอาจากคลื่นที่สั่นกระเพื่อมตามจุดตำแหน่งต่างๆ เอ ผมสงสัยว่าเค้าวางทุ่นกันเป็นตารางถี่ยิบอย่างนั้นเลยเร้อ แต่ช่างเหอะ หนังน่ะ ดูเอามันส์ใช่ม้าาา

พระเอกตอนหายเกรียนมาเป็นผู้การเรือ

แกงค์พระเอกก็เลยสอยยานรบเอเลี่ยนไปได้สองในสามลำ แต่ลำสุดท้ายไหวตัวทัน เลื้อยแบบซิกแซก พระเอกก็เลยใช้วิธีหลังพิงฝาเอ้ยฝั่ง รอพระอาทิตย์ขึ้น แล้วเปิดหมัดแลกกัน เพิ่งรู้ว่าพ่อพระเอกกับนากาตะของเราเป็นสไนเปอร์กับเขาด้วย โดยยิงกระจกกรองแสงยูวีของเอเลี่ยนให้แตก จนเอเลี่ยนตาพร่า ปล่อยให้เจ้นักร้องซัดขีปนาวุธใส่

แต่สุดท้ายแกงค์พระเอกก็ไม่รอดโดนจมเรือจนได้ พระเอกก็เลยต้องลอยตุ๊บป่องกลับฐานพร้อมพวกด้วยเรือยาง ตอนเรือแกจมนี่ผมนึกถึงเรื่องไททานิกเลย เหมือนกันเปี๊ยบ แต่พี่แกนั่งเรือยางช่วยชีวิตไม่ได้เกาะฝาประตูเหมือนโรส หุๆๆๆ

จนในที่สุดก็เข้าสู่ชื่อเรื่องสักที
- อะไรนะ ตั้งนานแล้วยังไม่เข้าเรื่องอีกเหรอ
- ไม่ใช่ คือชื่อเรื่องมัน Battleship นี่นา ทำไมมีแต่ Destroyer กับเรือบรรทุกเครื่องบินไง

อ้อ เข้าเรื่องดีกว่า คือไอ้เรือประจัญบาน Battleship ตอนเริ่มเรื่องที่เอาไปทำเป็นพิพิธภัณฑ์ เอรู้สึกจะชื่อมิสซูรี่นะ เป็นเรือลำเดียวที่เหลืออยู่ตอนนี้ ให้พระเอกได้ใช้ไปถล่มสถานีส่งสัญญาณ แต่แกงค์พระเอกบอกว่ามันเก่า มันอนาล็อค มันฯลฯ สรุป คือขับไม่เป็นนั่นเอง 55555
เรือมิสซูรี่ของจริง

ตอนนี้ผมชอบมากที่สุดของเรื่องเลย คือบรรดาทหารเรือเก่า(ที่แก่) ยกพลมาช่วยแกงค์พระเอกขับเรือ ไม่รู้สิผมรู้สึกว่าเท่มว้ากกกก นึกถึงคำพูดว่า "Old Soldier Never Die" เลยในบัดดล แต่ขอปรับเป็น "Old Navy Never Sink" จะเข้ากับเรื่องมากกว่า 55555

แต่แอบสงสัยอยู่นิดนึง พวกบรรดาปู่ๆทหารเรือเก่านี่ไปเอากระสุน(เก่าๆ) มาจากไหน บอกว่ามีนิดหน่อย แหมแต่ซัดกับเอเลี่ยนกระจาย

ฉากเรือมิสซูรี่ซัดกับยานแม่ขอบอกว่ามันส์มาก ชอบจริงๆตอนมีทิ้งสมอดริฟเรือด้วยง่า ผู้กำกับคนเขียนบทคิดได้ไงเนี่ย (แต่หลักความเป็นจริงแล้วผมว่าถ้าทำแบบนี้สงสัยเรือหักกลางก่อนแหงมๆ แต่เอาอะไรมาก มันเป็นหนังนินา ดูเอาสนุกเหอะอย่าจับผิดไรมาก ไม่ได้ดูสารคดีนิ)

หลังจากโชว์ความเก๋าของเรือมิสซูรี่่ซัดกับยานแม่แล้ว ผลปรากฎว่าเรือมิสซูรี่สู้ไม่ได้ (แหงล่ะ) แต่ไม่แพ้นะฮาฟ จำได้ป่ะตอนต้นเรื่องที่มีคล้ายๆกับที่จอดเฮลิคอปเตอร์ที่ปล่อยบาเรียออกมา พี่แกไปซัดโดนจนหักเลย คราวนี้กองทัพเรือทั้งกองทัพก็เลยออกมาช่วยได้ ยานแม่เลยโดน F-18 ซัดซะอ่วมระเิบิดตูม แล้วก็เลยตามมาทำลายสถานีส่งสัญญาณซะเหี้ยน

ตอนจบก็แฮปปี้เอนดิ้ง ทั่นนายพลพ่อพระเอกก็มอบเหรียญกล้าหาญให้ผู้วายชนม์ทั้งหลาย พระเอก(เคย)เกรียนแตกของเราก็พลอยได้เหรียญกะเค้าด้วย แล้วก็ได้เป็นทหารเรือต่อไม่โดนปลดแล้ว เย้ เย้ รอดตัวไป แล้วก็ไปคุยกับทั่นนายพลเรื่องแต่งงานกับนางเอก ที่เหลือก็พอเดาได้

ข้อคิดที่ได้จากหนัง
หลังจากดูหนังจบแล้วก็ต้องมาดูข้อคิดมั่ง
- นักวิทย์จากนาซ่าบอกตอนรู้ว่าเอเลี่ยนบุกว่า "เหมือนโคลัมบัส กะพวกอินเดียแดง แต่ตอนนี้เราเป็นอินเดียแดง" คงไม่เป๊ะๆเพราะจำไม่ได้หรอกแต่คงประมาณนี้ ช่วงนี้ผมสะท้อนใจเป็นอย่างแรง เข้าทำนองผู้เข้มแข็งกว่าย่ิอมต้องรุกรานผู้อ่อนแอกว่า ถ้ามองในมุมนี้เอเลี่ยนก็คงไม่ผิดที่จะบุกยึดโลกเรา อีกอย่างเอเลี่ยนคงคิดว่าอยู่ดีไม่ว่าดี มาเรียกให้กรูมาบุกซะงั้น อาาาา โลกนี้ช่างโหดร้ายยิ่งนัก
- พี่บึ้กขาขาดผู้หมดอาลัยกับโลกพร้อมๆกับขา ผมว่าผมพอเข้าใจอารมณ์พี่แก (เพราะเคยเป็นเหมือนกัน เอ๊ะ ไม่ใช่เคยขาขาดนะ แต่เคยหมดอาลัยกับโลก แต่ไม่เกรียนขนาดพี่แก) แต่สุดท้ายพอมองเห็นว่าเรายังทำประโยชน์กับผู้อื่นได้ พี่บึ้กก็พยายามเต็มที่หายเกรียนในบัดดล ขอชื่นชมจุดนี้
- ไม่บ่นถึงไม่ได้ พ่อพระเอกเกรียนแตกของเรา เรื่องนี้ชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์สร้างวีรบุรุษจริงๆ คนเก่งๆจริงๆแล้วมีมากมาย แต่โอกาสไม่เอื้อให้ พระเอกเราจริงๆตอนแรกที่ได้มาเป็นผู้การเรือก็ทำได้ไม่ดีนัก ยังคงรักษาึความเกรียนไว้ได้ดีจริงๆ แต่ด้วย "ความรับผิดชอบ" ทำให้พระเอกเราหายเกรียนและหันกลับมาเป็นผู้นำได้อย่างดี แต่มัีนก็แลกด้วยอะไรหลายๆอย่างจริงๆนะ

สรุป
ผมไม่ใช่นักวิจารณ์หนัง ไม่ใช่นักดูหนังตัวยง แค่อยากบ่นๆเรื่อยเปื่อยตามประสา จึงไม่สามารถให้คะแนนกับหนังเรื่องนี้หรือเรื่องไหนๆได้ แค่อยากบอกว่าสำหรับผมหนังเรื่องนี้ "สนุก คุ้มค่าเงิน ให้ดูอีกรอบก็โอนะ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับประทับตราตรึงไว้ให้ลึกสุดใจ"

ปล. 
ตอนท้ายเรื่องบอกว่าให้รอดู ถ้าคุณปวดฉี่แบบเต็มถังแล้ว หิวข้าว หรือมีธุระอะไรจะไม่ดู ผมก็บอกว่าตามสบายเถอะครับ คือมันไม่ได้มีอะไรหรอก ผมบอกให้ก็ได้ว่ามีนักเรียนสามคนที่สกอตแลนด์ไปเจออุกาบาต (มั้ง) เฉี่ยวโรงนาแหว่งไปแถบ แล้วมีตำรวจหรือช่างหรือใครสักคนที่เป็นผู้ใหญ่ (พี่แกอุปกรณ์งัดแงะครบจริงๆ) พยายามจะเปิด (รู้ได้ไงไม่รู้ว่าอุกกาบาตนี่เปิดได้ด้วย) จนสุดท้ายก็เปิดได้ แล้วก็เห็นมือเอเลี่ยนออกมาจับขอบประตู แกงค์เด็กผู้ใหญ่ก็วิ่งป่าราบ แค่เนี้ยจริงๆ

Credit
รูปภาพจาก internet