วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2555

ไปดูหนัง แล้วมาบ่น TopGun

โปสเตอร์หนัง


29 เมษายน 2555 03:30
วันสองวันนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายกับผม ทั้งเครียดทั้งเสียใจ ไม่รู้ทำไงกินเบียร์ดีกว่า 5555 (เด็กดีไม่ควรทำตาม) แต่ก็ทำให้ผมได้นั่งดูหนังเรื่องหนึ่ง ที่ร้านที่ผมไปนั่งกินเบียร์ ถ้าวันเสาร์มีใครเห็นไอ้บ้าคนหนึ่งนั่งกินเบียร์ดูหนังคนเดียว ไอ้นั่นแหละผมล่ะ หุๆ เป็นหนังที่ไม่ได้ดูน้านนานมากแล้ว นั่นก็คือเรื่อง TopGun นั่นเอง

ไม่ได้เป็นหนังแผ่นหนังในเคเบิ้ลอะไรหรอก แต่ TPBS เอามาฉายตอนสี่ทุ่ม เพิ่งทราบเหมือนกันว่าช่องนี้มีหนังมาฉายด้วย แหล่มจริงๆ

บ่นเรื่องส่วนตัวมามากแล้ว มาเข้าสู่ตัวหนังสักทีดีกว่า และอย่างเคยครับ มีการเปิดเผยเนื้อหาแบบไม่มียั้ง (หรือที่เขาเรียกว่าสปอยสุดๆ) ถ้ากลัวว่าได้ดูหนังแล้วจะเสียอรรถรส ให้ปิดได้เลยครับ แต่ผมว่าแทบทุกคนคงได้ดูมาแล้วแหละ หุๆๆๆ

Top Gun เป็นหนังเกี่ยวกับเครื่องบินรบ ไม่เชื่อดูจากโปสเตอร์สิ ออกฉายเมื่อปี 2529 นานมาแล้วใช่ไหมล่ะ พระเอกทอม ครุยส์ยังเอาะๆอยู่เลย นางเอกของเีรื่องคือ เคลลี่ แมคกินลิส (ได้ข่าวว่าชีเป็นพวกเล่นดนตรีไทยด้วยง่า) หนังเรื่องนี้สร้างปรากฎการณ์หลายอย่าง เพราะในหนังมัน "เท่ห์มาก" คงเป็นแรงบันดาลใจให้ใครต่อใครที่ได้ชมอยากเป็นนักบินรบกันเป็นแถบๆ ไม่เชื่อลองดูรูปพระเอกเราสิ

มาเวอริค พระเอกของเรื่อง เท่ห์ใช่ไหมล่ะ
เริ่มเรื่องที่เรือบรรทุกเครื่องบิน(ในดวงใจของผม) USS Enterprise ที่ลอยตุ๊บป่องอยู่มหาสมุทรอินเดีย (แถวไหนไม่รู้) เปิดตัวมาก็เท่ห์นำไว้ก่อนเลย เป็นภาพแสดงให้เห็นถึงปฏิบัติการบนเรือบรรทุกเครื่องบิน ก็คล้ายๆกับในหนังสารคดีช่อง Discovery แหละครับ ความรู้สึกส่วนตัวแล้วหนังเรื่องนี้เน้นความเท่ห์แทบตลอดเรื่อง จริงๆนะ ใครที่ได้ดูแล้วแล้วไม่เห็นว่ามันเท่ห์ตรงไหน ผมให้เตะ........กำแพงข้างบ้านเลย 55555

แล้วเรดาห์ของหอบังคับการก็จับเครื่องบินไม่ปรากฎสัญชาติได้จึงได้สั่งการให้เครื่องบิน 2 ลำที่ออกลาดตระเวนอยู่ตอนนั้นไปดูหน่อยสิ แน่นอนหนึ่งในนั้นต้องเป็นพระเอกของเรานั่นเอง ใจจริงแล้วอยากเก็บไปอธิบายตอนท้าย แต่เพื่อให้เข้าใจในลักษณะของเครื่องบินรบในเรื่อง จึงยกมาเล่าให้ฟังนิดหน่อยตอนนี้ก่อน

F-14 Tomcat ตัวเอกของเรา
 โดยส่วนตัวแล้วเป็นเครื่องรุ่นหนึ่งที่ผมชอบมาก
เครื่องบินตัวเอกในเรื่องคือเครื่องบินขับไล่รุ่น F-14 Tomcat เป็นเครื่องบินที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้บนเรือบรรทุกเครื่องบิน เจ้าเครื่องF-14 นี่จะใช้นักบินสองคน จริงๆแล้วคนขับจะมีคนเดียว (ก็คือคนนั่งหน้า) ส่วนคนนั่งหลังเรียกว่า Radar Interceptor Officer คล้ายกับเป็นคู่หูคอยช่วยเหลือนักบิน คือสมัยก่อนเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ยังไม่ล้ำเหมือนตอนนี้ เครื่องบินหลังๆจึงใช้คอมพิวเตอร์ช่วยเหลือนักบินแทนคน เครื่องบินรุ่นใหม่ๆจึงใช้นักบินคนเดียว (เครื่องบินรบนะ เครื่องพาณิชย์ จาก 3 คน เหลือ 2 คน ตัด Flight Engineer ออกไปใช้คอมแทน) 


กลับเข้ามาสู่หนังของเราสักทีออกทะเลไปนิดหน่อยแล้ว พระเอกของเรา "มาเวอริค" มีคู่หูคือ "กูส" (ทั้งสองชื่อไม่ใช่ชื่อจริงของเขานะ เป็น Call Sign ประมาณว่ารหัสเรียกนั่นแหละ) ส่วนอีกลำหนึ่งมี "คูการ์" (ไม่ใช่ลูกอมนะ) กับคู่หูคนหนึ่ง (ผมจำชื่อไม่ได้จริงๆ) เมื่อทั้งสองลำไปถึงที่หมายก็พบกับ "มิค-28" อันเป็นเครื่องลำเก่งของทางโซเวียตคู่ปรับอเมริกานั่นเอง และเครื่องมิค-28 ก็มาสองลำเช่นกัน ทางฝ่ายพระเอกเราก็ได้รับคำสั่งให้ไล่เครื่องมิคออกไปซะ และแล้วการต่อสู้ก็เริ่มขึ้น แต่การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ค่อยเหมือนการต่อสู้สักเท่าไร ทำไมเหรอ เดี๋ยวค่อยมาว่ากัน หุๆๆๆๆ

เครื่องมิคลำหนึ่งล็อคเป้าเครื่องของคูการ์ได้ คือเหมือนกับจะยิงมิสไซด์ใส่ได้ แต่เครื่องมิคก็ไม่ยิง ทีนี้คูการ์ก็รู้ตัวเองว่าถ้าเครื่องมิคเอาจริงล่ะก็เดี้ยงไปแล้ว ส่วนพระเอกของเราก็ไล่เครื่องมิคไปด้วยด้วยการบินกลับหัว?? แบบคานูปี้แนบคานูปี้ (คานูปี้ก็คือไอ้ครอบแก้วที่ครอบนักบินนั่นแหละ) แล้วดันยกกล้องไปถ่ายนักบินเครื่องมิึคเสียอีก คราวนี้เครื่องมิคก็เลยยอมแพ้บินกลับไป เครื่อง F-14 ทั้งสองลำน้ำมันก็ใกล้หมดแล้วจึงได้รับคำสั่งให้บินกลับเรือ ก็เหมือนจะไม่มีอะไรเครื่องของมาเวอริคก็กำลังจะบินถึงเรือแล้ว แต่อีตาคูการ์กลับสติแตก ผมคิดว่าคือเหมือนตัวเองกลัวสุดขีดเพราะเฉียดตายเลยสติแตก พอคูการ์สติแตกแล้วก็บังคับเครื่องไม่ไหว ได้แต่มองรูปลูกเมีย (เกี่ยวไรไหมเนี่ย จริงๆกลัวตายกลัวไม่ได้เห็นหน้าลูกเมียก็ต้องรีบกลับเรือสิเนอะ) 

สัญญลักษณ์ของ TOPGUN Program
มาเวอริคก็เลยฝ่าฝืนคำสั่งให้ลงจอดกลับไปช่วย?? โดยการไปเตือนสติคูการ์และบินนำกลับมายังเรือสำเร็จ แต่ก็ต้องโดน ผบ.เรียกไปด่าเพราะฝ่าฝืนคำสั่ง ถึงอย่างไรก็ตาม ผบ.ก็เลือกให้ทั้งมาเวอริคและกูสเข้าร่วมการฝึกที่ Miramar เรียกว่า TOPGUN นั่นเอง (ยอมรับช่วงนี้สับสน หรือตอนดูเริ่มเมาเบียร์แล้วหว่า) โดยจริงๆแล้ว ผบ.จะส่งคูการ์ไปแต่คูการ์แต๋วแตกขอถอนตัวไปแล้ว โดยคนที่จะไปฝึกที่ TOPGUN ได้นั้นต้องเป็นนักบินที่สุดยอด เพื่อไปฝึกให้สุดยอดยิ่งกว่า โดยครูฝึกที่สุดยอดที่สุด 5555 ในหนังเขาว่าไว้อย่างนั้นจริงๆ โดยผบ.ไม่ค่อยอยากส่งทั้งคู่ไปเพราะไปก่อนเรื่องมากมาย มาเวอริคโดนปลดออกจากผู้ฝูงสามหน (โดยผบ.คนนี้แหละ สองหน อีกหนเหมือนจะเป็นเรื่องสาวๆ หุๆๆ) สรุปพี่มาของเรานี่เป็นแว้นเครื่องF นั่นเอง 55555

พอเริ่มต้นชั้นเรียนทุกคนก็ได้รับการแนะนำให้รู้จัก Viper ที่เป็นผอ.ในการฝึก เรียกง่ายๆว่าครูใหญ่นั่นแหละ โดยลุง Viper นี่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักบินที่เก่งที่สุดในปฐพีอะไรเทือกนี้ (สุดยอดไหม) โดยลุงไวเปอร์ได้บอกว่าใครที่ได้คะแนนอันดับหนึ่งจะได้รับการจารึกชื่อไว้ในชั้น TOPGUN แล้วก็ยังได้กลับมาเป็นครูฝึกได้อีกด้วย พี่นักบินแว้นของเราก็ได้พบกัน ICEMAN ที่เป็นคู่แข่งในชั้นเรียน โดยที่พี่ไอซ์ของเรานี่ก็ได้รับการยกย่องว่าเก่งที่สุดในชั้นเหมือนกัน คราวนี้เสือสองตัวอยู่ในถ้าเดียวกันเสียแล้วล่ะพี่น้อง

ชาร์ลี นางเอกของเรื่อง (หาภาพยากกว่าพี่ทอมแยะ)
ตัดฉับมาที่บาร์ คราวนี้คู่พระนางได้เจอกันเสียที โดยพี่มากับพี่กูสไปกินเบียร์กันแล้วมีการปะทะคารมเล็กน้อยกับพี่ไอซ์ หลังจากแยกย้ายกันไป (ตอนแรกนึกว่าจะมีต่อยกันเสียอีก) พี่มาเราก็ไปปิ๊งกับนางเอกของเรื่อง น้องนางชื่อ "ชาร์ลี" (ชื่อเหมือนผู้ชายเนอะ) หลังจากร้องเพลงจีบสาวเรียบร้อยแล้วปรากฎว่าชีมากับหนุ่ม (ที่ในเรื่องแก่) อีกคน พระเอกแว้นของเราก็ยังตามไปสีต่อในห้องน้ำหญิง แต่ก็คงสร้างความประทับใจในความห่ามได้พอสมควร หุๆๆ

พอเริ่มชั้นเรียนปรากฎว่าน้องชาร์ลีของเรากลับกลายมาเป็นหนึ่งในครูฝึกที่เป็นพลเรือนเสียด้วย พี่มาเราเลยงานเข้าเล็กน้อยพอเป็นพิธีแค่นั้นแหละ

การฝึกก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆมาเรียงๆ ได้ดูพี่มาขับเครื่องบินบินไปมาอย่างเท่ห์ แต่ก็ยังแว้นเครื่องF จนสร้างเรื่องจนได้ คือไปแหกกฎห้ามบินต่ำกว่า 10,000 ฟิตคือพี่แกต้องบินฝึกสู้รบโดยไล่ตามครูฝึกคนหนึ่ง เลาๆว่าชื่อเจสเตอร์ ไล่ตามกันเพลินไปหน่อยเลยแหกกฎ แต่พี่มาของเราก็ตามไปยิงโดยการ "ล็อคเป้า" ซึ่งก็เหมือนตอนต้นเรื่องแหละครับ ใครโดนล็อคเป้าถือว่าแพ้อะไรทำนองนี้ แล้วยังไม่พอไปแว้นใส่หอบังคับการบินอีก โดยหอบอกว่าลงไม่ได้ที่จอดหรือรันเวย์เต็มอะไรสักอย่าง พี่มาแกเลยแกล้งบินผ่านหอ ให้ความรู้สึกเหมือนพวกเด็กแว้นบิดให้เสียงดังๆเวลาวิ่งผ่านหน้าร้านขายของชำประมาณนั้น ลุงไวเปอร์เราก็เลยต้องเรียกพี่มาเข้าห้องเย็นอบรมสักหน่อย แล้วก็เปิดเผยเรื่องพ่อของพี่มาเล็กน้อย คือพ่อของพี่มาก็เป็นนักบินรบสมัียสงครามเวียดนาม แล้วแกขับ F4 ออกไปแล้วไม่ได้กลับมาอีกเลย นี่ก็เลยกลายเป็นปมของพี่มาส่วนหนึ่งที่ทำอะไรต้องห่ามๆแว้นๆ (ยอมรับเลยว่าดูจบแล้วก็ยังไม่เห็นความเชื่อมโยงความแว้นกับเรื่องพ่อของพี่มาเลย จริงๆ)

แล้วพระเอกกับนางเอกก็สานสัมพันธ์รักกันไปเรื่อยๆ โดยการให้พี่มามาหาชาร์ลีที่บ้านบ้าง ให้หักหน้ากันในชั้นเรียนบ้างจนพี่มาของเราโมโหแว้นรถเครื่อง (อย่างเท่ห์บอกแล้วเรื่องนี้เน้นความเท่เก๋ไก๋ชไนเดอร์) ออกไป แต่เจ้ชาร์ลีก็ไม่น้อยหน้าซิ่งรถเปิดประทุนตามไป จนได้ปรับความเข้่าใจแล้วก็ได้ครองคู่กันอย่างมีความสุข เอ้ยไม่ใช่ นี่ไม่ใช่นิทานก่อนนอนคุณหนูนะ หุๆๆ แล้วก็มีการเปิดตัวครอบครัวสุขสันต์ของพี่กูส เนื้อเรื่องช่วงนี้เหมือนปูบรรยากาศอันสงบสุข ความรักความผูกพัีนของคนสองคนที่ต้องร่วมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายในเวลาขึ้นบินด้วยกัน เพราะพี่มาเคยบอกกับพี่กูสว่า นายเป็นครอบครัวของฉันที่เหลือเพียงคนเดียว (ทำให้รู้ว่าพี่มาเราอยู่คนเดียว)

พี่กูสกับพี่มา สองคู่หูขาแว้นเครื่องF ตอนตั้งใจเรียน
จุดหักเหของเรื่องก็มาจากการฝึกวันหนึ่ง พี่มากับพี่กูสคู่หูก็ออกฝึกตามปกติร่วมกับตาไอซ์แมน 
มันก็ไม่มีอะไรหรอกในตอนแรก ก็เหมือนทุกครั้งที่จะต้องทำอะไรห่ามๆ แต่งวดนี้เกิดปัญหาขึ้นกับเครื่องของพี่มาและพี่กูส คือเครื่องยนต์หมายเลขหนึ่งเกิดมีปัญหาหมดไฟดับไปดื้อๆ (นี่ฮาเล็กน้อยตรงที่ในหนังบอกเครื่องยนต์หนึ่ง แต่ภาพกลับเป็นเครื่องยนต์สอง เครื่องยนต์หนึ่งอยู่ซ้ายนะจ๊ะ ผู้กินกับ) แล้วเครื่องยนต์อีกเครื่องก็ดับตามมา ทำให้เครื่อง F14 ของทั้งคู่หมุนติ้วเป็นลูกข่างร่วงมาจากฟ้าสุราลัยมุ่งตรงไปสู่นทีเบื้องล่าง พี่มาไม่สามารถบังคับเครื่องได้จึงบอกให้พี่กูสทำการดีดตัวออกจากเครื่องบิน แต่เมื่อเกิดการดีดตัวจริงๆแล้ว พี่กูสก็ดันไปกระแทกกับคานูปี้ คอหักเลย (นี่เป็นเรื่องที่เกิดได้จริงๆ มีนักบินหลายคนเสียชีวิตเพราะคอหักเนื่องจากไปกระแทกกับคานูปี้ หลังๆจึงออกแบบเก้าอี้นักบินให้ใหญ่เลยหัวนักบินแล้วมีส่วนที่เป็นโลหะ เอาไว้กระทุ้งคานูปี้ให้แตกเพื่อนักบินจะได้ปลอดภัยยิ่งขึ้น) 

พอคู่หูตายในขณะปฏิบัตหน้าที่พี่มาเราก็เริ่มเว่อเว้อเลย ถึงการสอบสวนจะออกมาว่าไม่ใช่ความผิดของพี่มาในอุบัติเหตุครั้งนั้น (เท่าที่ค้นๆดู เครื่องยนต์ของ F14 ก็มีปัญหาจริงๆ) แต่ก็ทำให้ความแว้นความห่ามของพระเอกหดหายไป โดยพระเอกไม่กล้าที่จะล็อคเป้าอันเป็นกิจกรรมโปรด รวมไปถึงยังฟาดหางใส่น้องชาร์ลี จนเธอโกรธหนีหายไป (จริงๆแล้วเธอทำเรื่องย้ายตัวเองก่อนหน้านี้แล้วมั้ง) แล้วยังไปพูดกับนางเอกชาร์ลีว่ายินดีที่ได้รู้จักอีกด้วย มันเหมือนกับไม่ใส่ใจในความสัมพันธ์ ความรัก ฯลฯ ของอีกฝ่ายเลย(ช่วงนี้อินมากซัดเบียร์เป็นปลากินน้ำเลยมันเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันของคนเขียนง่า กระซิกๆ) 

และในที่สุดก็เหมือนพระเอกจะตัดสินใจลาออก แต่คุณครูใหญ่ไวเปอร์ก็ยื่นมือเข้ามาช่วยปลอบใจ แล้วเล่าเรื่องวีรกรรมของพ่อพี่มาให้ฟัง โดยพ่อพี่มาสละชีวิตเพื่อช่วยเพื่อนอีกสามลำเอาไว้ในสงคราม และลุงไวเปอร์ก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย ทำให้พี่มาของเราเริ่มคิดได้

จนในที่สุดพี่มาเราก็เรียนจนจบหลักสูตรจนได้ แต่ตาไอซ์แมนได้เป็นที่หนึ่งของชั้นไ้ด้โล่ TOPGUN มาครอบครองสมใจนึกบางลำพู วันจบหลักสูตรก็มีคำสั่งด่วนให้เข้าร่วมปฏิบัติการลับ (หรือด่วนอะไรนี่แหละ จำไม่ได้แล้ว แอลกอฮอล์ขึ้นตา หุๆๆ) ได้แก่ ตาไอซ์นักเรียนอันดับหนึ่ง, ฮอลลีวู้ด (ใครอ่ะเหรอ เป็นนักบินร่วมชั้นอีกคนไง มีบทนิดหน่อย แต่ขี้เกียจพูดถึง) และแน่นอน พี่มาของเรานั่นเอง
รูปเท่ๆของ F14 อีกสักรูป หารูปในเรื่องไม่ค่อยเจอเลยครับ ส่วนใหญ่เป็นแต่รูปพี่ทอม  ครูซง่ะ

โดยผบ. (คนเดิมตอนต้นเรื่องนั่นแหละ) มอบหมายให้ตาไอซ์ กับฮอลลีวู้ดไปคุ้มกันทีมช่วยเหลือเรือของกองทัพเรือลำหนึ่ง และให้พี่มากับคนอื่นคอยสนับสนุน แต่ให้ตายเหอะ ไม่เห็นมีอะไรใหุ้คุ้มกันเลย ทั้งเรื่องผมเห็น USS Enterprise อยู่ลำเดียวจริงๆ 5555 

ขณะที่บินๆอยู่ ตาไอซ์กับฮอลลีวู้ดก็ปะเข้ากับมิค28 ฝูงใหญ่ (หลายลำมากมาย ผมจำไม่ได้แล้วว่ากี่ลำ เลาๆว่า 6 ลำ) แล้วฮอลลีวู้ดก็โดนสอยตกไป แต่ก็ยังดีดตัวหนีออกมาทันท่วงที พี่มาของเราเลยต้องออกโรง ช่วงนี้ไม่รู้บรรยายไง ก็เป็นฉาก Dogfight ภาษานักบินเขาเวลาเครื่องบินรบสู้กันพันตูบนฟ้าเขาเรียกกันแบบนี้ 

สุดท้ายก็อย่างที่เดากันได้ง่ายๆ พระเอกของเราก็ขี่ม้าขาว เอ้ย F14 ช่วยเหลือตาไอซ์แมนได้ สอยเครื่องมิคไปหลายลำ แล้วก็กลับเรืออย่างปลอดภัยท่ามกลางความยินดีปรีดาของบรรดาพลพรรค (อ้าว เฮ้ ไหนบอกว่าจะไปกู้เรือไง ลืมกันหมดซะงั้น 55555 ผมบอกตั้งแต่ต้นแล้ว) และพี่มาก็ได้รับคำชมเชยตบด้วยโบนัสพิเศษให้เลือกได้ว่าจะไปปฏิบัติงานที่ไหน พี่แกเลือกเป็นครูฝึกที่ TOPGUN ครับ ผมล่ะงงเลยคือพี่มาแกยังหนุ่มยังแน่น น่าจะออกไปบินรบก่อน อายุมากเข้าค่อยกลับมาเป็นครูฝึก แต่ก็มีฉากหนึ่งที่พี่มาแกเอาป้ายชื่อ (ที่ทหารทุกคนสลักชื่อตัวเองแล้วห้อยคออ่ะครับ) ของพี่กูสขว้างลงทะเลไป คงจะสื่อถึงตัดใจได้แล้วประมาณนี้ แต่ผมว่ามันก็ไม่ค่อยอ่ะ มันงงๆ

ฉากจบก็พี่มาที่บาร์แห่งหนึ่ง หยอดตู้เพลงแล้วชาร์ลีก็โผล่กลับมา โอ้ววว อยากให้ชีวิตผมง่ายเหมือนอย่างงี้บ้าง เอาตังค์ไปหยอดตู้เพลงแล้วได้คนรักกลับคืนมา จะแลกแบงค์พันไปหยอดให้หมดเลยเศร้า

ช่วงบ่นไปเรื่อย

เรื่องนี้ถ้าใครพอมีความรู้เรื่องเครื่องบินจะจับผิดได้แยะมาก เริ่มเรื่องมาก็ฮาแล้ว คือเครื่องมิค28 เนี่ย เขาใช้ F5 มาติ๊ต่างถ่ายทำแทน (เท่าที่ทราบ มิค28 ไม่มีนะ เพราะเครื่องมิคเขาลงด้วยเลขคี่ 555) แต่ก็เข้าใจนะ เพราะจะไปหาเครื่องมิคจากไหนมา เพราะช่วงนั้นน่าจะอยู่ในยุคสงครามเย็นอยู่

การดำเนินเรื่องก็ไปเรื่อยๆ ตัดสลับกับความโชว์เท่ของเครื่องบินและพระเอก เนื้อหาก็พอเดาได้อยู่ นี่น่านับถือคือเรื่องนี้ CG น้อยมากหรือไม่มีเลย ใช้ความเท่จากของจริงล้วนๆ ซึ่งหาได้ค่อนข้างยากจากภาพยนต์ฮอลลีวู้ดสมัยนี้ ต้องจัด CG หนักๆไว้ก่อน

เพลงประกอบเพราะมาก ยิ่งได้ฟังตอนเครื่องออกบินแล้วมันเข้ากันจริงๆ โดยเฉพาะเพลง Take My Breath Away ได้ใจสุดๆ

ภรรยาของกูสในเรื่องนี้คือ เมค ไรอัน อ่ะมองแวบๆยังสงสัยว่าใช่หรือเปล่า พอเห็นจะๆโอ้ว ป้าเมคของเราเล่นเรื่องนี้ด้วยง่ะ เหมือนกันตาไอซ์แมน แสดงโดย วาลคิมเมอร์ หุๆๆๆ 

สุดท้่าย เราลองมาชมภาพปัจจุบันของ เคลลี่ หรือเจ้ชาร์ลีเราดีกว่า โอ้ววว อนิจจัง วัฒสังขาร จริงๆ
อนิจัง วัฒสังขารา 55555
เพิ่มเติมเล็กน้อยเพื่ออรรถรสในการชม

เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการบิน และเครื่องบินรบ ถ้าจะดูแค่เอามันส์เอาเท่ก็ไม่เท่าไร แต่ถ้าอยากรู้เรื่องผมก็พอมีความรู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับภาพยนต์เรื่องนี้มานำเสนอ แต่คงไม่ละเอียดยิบ ถ้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ผมแนะนำวิกิพีเดียเลยครับ ละเอียดยิบจนเลือดซิบเลย หุๆๆๆ

เครื่องบินรบหลักในเรื่องก็คือ F-14 Tomcat ไอ้ชื่อ Tomcat เป็นชื่อรุ่นเหมือน F-18 Hornet, F-22 Raptor อะไรกำเทือกนี้ F-14 นี่ออกแบบเื่พื่อเป็นเครื่องบินขับไล่ (ก็คือเครื่องบินรบที่ใช้ฟัดกับเครื่องบินรบด้วยกันนั่นแหละครับ) ความพิเศษของเครื่องรุ่นนี้คือใช้ระยะทางในการเทคออฟสั้น เพื่อให้บินขึ้นลงได้จากเรือบรรทุกเครื่องบิน

เครื่อง F-14 นี้สามารถบินได้ด้วยความเร็วเหนือเสียง ที่พิเศษสุดและผมชอบมากๆสำหรับเครื่องบินรุ่นนี้ก็คือปีกที่สามารถกางออก (จากรูปด้านซ้ายจะเห็นว่ากางปีกเหมือนเครื่องบินปกติ) และหุบแนบลำตัวได้ (ดูจากรูปด้านขวา) อ้าว แล้วทำไมต้องทำแบบนั้นล่ะ คือแบบกางปีกเนี่ยจะทำให้บินผลาดแผลงได้ง่าย เหมาะสำหรับบินในย่านความเร็วต่ำกว่าเสียง ใช้ตอนฟัด Dogfight กับเครื่องบินฝ่ายตรงข้าม แปลไทยเป็นไทยง่ายๆว่ากางปีกตอนบินช้า ซัดกับข้าศึก เพราะมันแว้นง่ายนั่นเอง
เปรียบเทียบกัน ระหว่ากางปีก กับ หุบปีก ของ F-14 Tomcat 

ส่วนตอนหุบปีกเพื่อประโยชน์ทางอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics) คือเครื่อบินจะรูปร่างคล้ายสามเหลี่ยม (ภาษาทางวิศวกรรมเรียก Delta wing) ซึ่งเหมาะสมในการลดแรงต้าน (Drag) เวลาบินเหนือเสียง รายละเอียดเรื่องนี้มันแยะมากไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับ กำแพงเสียง แรงต้านหลากชนิด มุมปะทะ ฯลฯ มันวิชาการเกินไปคงไม่มีใครอยากรู้ (ขนาดตอนเรียนผมยังมึนเลย และก็เลยเอาความรู้ใส่โอ่งหินฝังดินคืนอาจารย์ไปเรียบโร้ย 555) แปลไทยเป็นไทยง่ายๆ หุบปีกเพื่อเตรียมตัวซิ่งนั่นเอง ส่วนเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์อะไร ไปดูในวิกิจะละเอียดกว่า ผมไม่ขอกล่าวตอนนี้ เพราะเอนทรี่นี้พูดเรื่องหนัง ไม่ได้พูดเรื่องเครื่องบินรบ 555555

เรื่องต่อไปก็คือเครื่องมิค28 ในหนังใช้เครื่อง F5 Phantoms ติ๊งต่างตามที่บอก คราวนี้เครื่องมิค28 เนี่ยมีจริงไหม เท่าที่ทราบ (ถ้าผิดพลาดขออภัย) คือเครื่องบินขับไล่มิคเนี่ยนะครับ จะเป็นเลขคี่ เช่น มิค 19 มิค 21 มิค 29 ผมเดาๆเอาว่าใช้ชื่อมิค 28 เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทั้งลิขสิทธิ์แล้วก็การเมือง

เสริมนิดหน่อย เครื่องบินF-14 นี่เป็นต้นแบบในการ์ตูนเรื่องมาครอสด้วยนะเอ้อ ตอนเด็กๆชอบมากที่เครื่องบินแปลงร่างเป็นหุ่นยนต์ได้ด้วย
Macross ที่ว่า ทั้งแบบเป็นหุ่นและแปลงเป็นกึ่งหุ่น แล้วก็เป็นเครื่องบิน
สรุป

เช่นเคยครับ สำหรับผมหนังเรื่องนี้ผมว่า "สนุก" ที่สนุกเพราะเครื่องบินมันเท่ ฉากต่อสู้กลางอากาศถึงไม่สมจริงในแง่ของเครื่องบินและตรรกะบางอย่าง แต่มันก็เป็นหนังอย่าไปคิดมากน่า และเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องคลาสสิคสำหรับหนังเกี่ยวกับเครื่องบินรบเรื่องหนึ่ง ถ้าไปถามใครๆว่าถ้าพูดถึงหนังที่เกี่ยวกับเครื่องบินรบ คุณจะนึกถึงเรื่องไหนผมว่าเกินครึ่งตอบว่า TOPGUN แน่นอน 

แต่ถ้าถามผมว่าดูซ้ำบ่อยๆโอไหม ผมว่าหนังเรื่องนี้ไม่ถึงขนาดนั้น ดูรอบเดียวแล้วอีกนานถึงอยากกลับมาดูอีกครั้งหนึ่ง 

เรื่องนี้ต้องแก้ไขหลายครั้งนิดหน่อย เพราะตอนเขียน โผมมาววว 5555 แต่ต้องรีบเขียนเพราะกลัวลืมเรื่อง แล้วค่อยๆเพิ่มเติมแทรกโน่นนิดนี่หน่อยตามเรื่อง ต้องขออภัยในความเวิ่นเว้อ

Credit
ภาพประกอบจาก internet

en.wikipedia.org/wiki/Grumman_F-14_Tomcat

en.wikipedia.org/wiki/Top_Gun
http://ghostlightning.wordpress.com/2009/05/31/mac2/ สำหรับรูปมาครอสครับ